"วันฮารีรายอ"เทศกาลแห่งความสุขที่มุสลิมทั่วโลกรอคอยมาถึงอีกครั้งแล้ว คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเป็นวันปีใหม่ตามปฏิทินอิสลาม แต่ผิดถนัด!! แท้จริงมันคือวันสำคัญทางศาสนา เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติศาสนกิจ และแสดงความเอื้ออาทรต่อกัน ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เราจะได้ยินข่าวว่า ชายแดนใต้เตรียมคุมเข้ม เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นในวัน"ฮารีรายอ" ของชาวมุสลิมที่ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา เชื่อแน่ค่ะว่า ชาวไทยส่วนใหญ่ซึ่งเป็นชาวพุทธคงไม่ค่อยคุ้นชื่อ "ฮารีรายอ" กันซักเท่าไหร่ พร้อมยังสงสัยว่าคือ วันดังกล่าว คือ วันอะไรและมีความสำคัญอย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมขออาสานำความรู้เกี่ยวกับวันฮารีรายอ ความสำคัญ พิธีกรรม และสาระน่ารู้อื่น ๆ มาฝากกันค่ะ รายละเอียดตามข้างล่างนี้เลยจ้า |
"ฮารีรายอ" (Hari Raya) เป็นภาษามลายูปัตตานี ส่วนในภาษามลายูกลาง แปลว่า วันใหญ่ หรือ วันอีด เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของชาวมุสลิม โดยก่อนวันงาน ชาวมุสลิมจะออกมาจับจ่ายซื้อของ เสื้อผ้า และหมวกกะปิเยาะ เพื่อเตรียมต้อนรับเทศกาลฮารีรายอกันอย่างคึกคัก และในวันดังกล่าวชาวมุสลิมจะไปเยี่ยมเยียนพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน เพื่ออภัยต่อกันในสิ่งที่ผ่านมา มีการแสดงออกด้วยการสวมกอด การจูบมือ การหอมแก้มทั้งสองของพ่อแม่ เป็นการแสดงความรัก ลูกหลานที่อยู่ต่างภูมิลำเนาต่างกลับบ้าน เมื่อมาขออภัยและอำนวยพรให้พ่อแม่ ทุกครัวเรือนจะมีความอบอุ่นไปด้วยบรรดาลูก ๆ หลาน ๆ กลับบ้านโดยพร้อมเพรียงกัน
ช่วงเวลา ในรอบปีหนึ่ง ชาวมุสลิม มีวันฮารีรายอ 2 ครั้ง คือ
1) อีดิลฟิตรี ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนเชาวาล ซึ่งเป็นเดือน 10 ตามปฏิทินอิสลาม ซึ่งเป็นวันออกบวช
2) อีดิลอัฏฮา ตรงกับวันที่ 10 เดือน ซุลฮิจญะ หรือตรงกับเดือน 12 ของปฏิทินอิสลาม ซึ่งเป็นการฉลอง วันออกฮัจญ์ หรือ ถือเป็นวันครบรอบการถือศีลอดของเดือนรอมฎอน
1) อีดิลฟิตรี งานเฉลิมฉลองหลังการถือศีลอด
แต่ละปีมุสลิมทั่วโลกจะถือศีลอดพร้อมกันในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินอิสลาม ทุกๆ ปีจะมีการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันเริ่มต้นถือศีลอดในแต่ละพื้นที่โดยพร้อมเพรียงกัน เนื่องจากปฏิทินอิสลามนั้นเป็นแบบจันทรคติ การเห็นหรือไม่เห็นดวงจันทร์ในวันที่ถูกกำหนดขึ้นให้เป็น “วันดูดวงจันทร์” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับประเทศไทย จะมีสำนักจุฬาราชมนตรีเป็นผู้กำหนดวันดูดวงจันทร์ และจะออกประกาศให้พี่น้องมุสลิมทราบโดยทั่วกันว่า ผลการดูดวงจันทร์เป็นอย่างไร นอกจากนี้ ในแต่ละพื้นที่ก็จะมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ผู้นำศาสนา และประชาชนในแต่ละท้องที่คอยเฝ้าดูดวงจันทร์ แต่อย่างไรก็ตาม จะยึดถือคำประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีเป็นหลัก
แต่ละปีมุสลิมทั่วโลกจะถือศีลอดพร้อมกันในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินอิสลาม ทุกๆ ปีจะมีการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันเริ่มต้นถือศีลอดในแต่ละพื้นที่โดยพร้อมเพรียงกัน เนื่องจากปฏิทินอิสลามนั้นเป็นแบบจันทรคติ การเห็นหรือไม่เห็นดวงจันทร์ในวันที่ถูกกำหนดขึ้นให้เป็น “วันดูดวงจันทร์” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับประเทศไทย จะมีสำนักจุฬาราชมนตรีเป็นผู้กำหนดวันดูดวงจันทร์ และจะออกประกาศให้พี่น้องมุสลิมทราบโดยทั่วกันว่า ผลการดูดวงจันทร์เป็นอย่างไร นอกจากนี้ ในแต่ละพื้นที่ก็จะมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ผู้นำศาสนา และประชาชนในแต่ละท้องที่คอยเฝ้าดูดวงจันทร์ แต่อย่างไรก็ตาม จะยึดถือคำประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีเป็นหลัก
“อีดิลฟิตรี” เป็นเทศกาลรื่นเริงหลังจากถือศีลอด ซึ่งเรียกกันเล่นๆ ว่า “เดือนบวช” จึงนิยมเรียกงานรื่นเริงดังกล่าวว่า “วันรายาออกบวช” “วันรายอออกบวช” “วันออกบวช” หรือ “วันอีดเล็ก” ตรงกับวันที่ 1 เดือนเซาวาล ตามปฏิทินอิสลาม กิจกรรมที่สำคัญเกี่ยวกับวันอีดิ้ลฟิตริ คือ การจ่ายซะกาต หรือการบริจาคทานเมื่อมีทรัพย์สินครบถึงจำนวนที่กำหนด ทั้งนี้ สามารถเทียบเคียงได้กับการจ่ายภาษีให้แก่สังคมนั่นเอง ถือเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว และเติมเต็มช่องว่างระหว่างชนชั้นในสังคมให้เกิดการเกื้อกูลซึ่งกันและกันด้วย | |||
|
ความสำคัญ
พิธีกรรม
1. การปฏิบัติตนในตอนเช้าของวันฮารีรายอ โดยชาวมุสลิมจะตื่นนอนแต่เช้าตรู โดยเฉพาะผู้หญิงจะเป็นผู้ตกแต่งบ้านเรือนให้สะอาดสวยงามเป็นพิเศษ จัดเตรียมอาหาร ขนมต่าง ๆ ไว้ต้อนรับเพื่อน ญาติพี่น้อง และแขกที่มาเยี่ยมเยียน ทุกคนต้องปฏิบัติบริจาคซากาตฟิตเราะห์ก่อนที่จะไปละหมาดในวันอีดิลฟิตรี สิ่งของที่ใช้ในการบริจาคจะใช้สิ่งของที่บริโภคเป็นอาหารหลัก
2. การอาบน้ำในวันฮารีรายอ เมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จ จะอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด เรียกว่าอาบน้ำสุนัต กำหนดเวลาอาบตั้งแต่เที่ยงคืนเริ่มต้นวันฮารีรายอ จนถึงพระอาทิตย์ตก แต่เวลาที่ดีที่สุดและเป็นที่นิยมอาบน้ำสุนัต คือเมื่อแสงอรุณขึ้นขอบฟ้าในวันฮารีรายอ ในขณะอาบน้ำสุนัตทุกคนจะต้องกล่าวดุอารีเป็นการขอพร
3. การประกอบพิธีกรรม ชาวมุสลิมจะเดินทางไปประกอบพิธีกรรมที่มัสยิด ในวันอีดิลฟิตรีจะไปมัสยิดเวลา 08.30 น. วันอีดิลอัฏฮา จะไปมัสยิดเวลา 07.30 น. การปฏิบัติตนเมื่อเดินทางถึงมัสยิด ทุกคนจะอาบน้ำละหมาด จากนั้นจึงเข้าไปในมัสยิด ทำการละหมาด ตะฮีญะดุลมัสยิด 2 รอกาอัต มีการแบ่งแยกผญิงชาย โดยใช้ม่านกั้นกลาง เสร็จแล้วจัดแถวนั่งรอฟังโต๊ะอิหม่าม ซึ่งเป็นผู้นำในการทำพิธีละหมาด
4. การละหมาด จะมีโต๊ะอีหม่ามเป็นผู้นำละหมาดจำนวน 2 รอกาอัต
5. การปฏิบัติตนเมื่อละหมาดเสร็จ หลังจากละหมาดเสร็จแล้ว มุสลิมทุกคนจะนั่งฟังอีหม่ามกล่าวคุฏบะ (คำอบรม) เพื่อแนะแนวทางชีวิตด้านความศรัทธาที่กระตุ้นเตือนให้ปฏิบัติแต่ความดีละเว้นความชั่ว และปฏิบัติตามแนวทางของอิสลาม เพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ขณะนั่งฟังนั้นทุกคนจะอยู่ในความสำรวม สงบนิ่ง ตั้งใจฟัง ไม่พูดจาใด ๆ ทั้งสิ้น และเมื่ออีหม่ามอ่านคุฏบะฮจบแล้ว อีหม่ามจะขอพรจากพระอัลลอฮ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และบรรดามุสลิมที่มาร่วมประกอบพิธีกรรม จะมีการขออภัยต่อกันโดยผู้น้อยจะเข้าไปขออภัยผู้อาวุโสกว่า